เรื่องราวบทสัมภาษณ์ของพี่บี นางสาววันดี บุญสม (พยาบาลวิชาชีพชำนาญการโรงพยาบาลเด็ก)
อะไรที่ทำให้เรายังคงเป็นอาสาสมัครกับทาง Operation Smile มาตลอด 10 กว่าปี?
ครั้งแรกที่พี่มาทำที่แม่สอด พี่ไม่เคยเจอเคสคนไข้ที่เป็นแบบนี้ พี่ทำงานที่กรุงเทพฯ คนไข้เรามีแค่ 8 เตียงเอง มากสุด 25 เตียง แต่พอเรามาเห็นคนไข้ของ Operation Smile มันเต็มไปหมด มันเยอะมาก แล้วเรารู้สึกว่าความต้องการในการเข้าถึงโอกาสของเขานี่มันมากจริงๆ บางเคสครอบครัวเดียว ต้องรับการผ่าตัดทั้งพ่อ แม่ ลูก เลยก็มี มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า พวกเขาต้องได้รับการสนับสนุนมากกว่านี้ ต้องได้รับการดูแลให้มากกว่านี้ แล้ว Operation Smile เขาก็สามารถเข้ามาช่วยตรงนี้ได้
และมันไม่ใช่แค่เรื่องการให้การรักษานะ แต่มันรวมไปถึงการช่วยเหลือทางฐานะทางเศรษฐกิจด้วย จริงๆ พี่ว่าค่ารักษาทั้งหมดตกคนละประมาณ 20,000 กว่าบาทเลยนะ ต่อให้เลือกรักษาที่โรงพยาบาลรัฐบาลก็ตาม ทั้งหมดนี้มันทำให้เราเองก็อยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือครั้งนี้และต่อๆ ไปด้วย
การทำงานเป็นอาสาสมัครพยาบาลตลอด 10 กว่าปี ที่ Operation Smile มันมีความหมายต่อพี่บียังไง?
มันมีความหมายต่อพี่มากค่ะ เราได้ออกมาเจอโลกภายนอกบ้าง นอกจากโรงพยาบาลที่เราทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ เพราะโรงพยาบาลที่พี่ทำงานประจำอยู่ หลายอย่างมันเข้าถึงหมดแล้ว มันมีอุปกรณ์ support ทุกอย่าง เช่น เครื่องจัดยา แต่พอมาออกหน่วยแพทย์ของ Operation Smile เราต้องทำกันเองหลายอย่าง อย่างน้ำเกลือ พยาบาลก็ต้องคำนวณเอง เช่น 1 ชั่วโมง 30 หยดประมาณนี้ มันเลยทำให้พี่รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเรื่องมันยังขาดแคลน อย่างน้อยช่วยแบ่งเบาภาระที่วอร์ดได้ และที่สำคัญ คือ ช่วยให้คนไข้ของเรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
เรื่องวันหยุดของเรา มันแทบไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย ถ้าเทียบกับการได้มาเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือคนไข้ที่นี่ มันเติมเต็มการใช้ชีวิตเรา เรารู้สึกดีทุกครั้งที่เห็นเด็กๆ เห็นพ่อแม่มีความสุขไม่ใช่แค่เขายิ้มได้นะ เราก็ยิ้มได้ แล้วทุกครั้งที่เรากลับไป แล้วนึกถึงเหตุการณ์เหล่านี้ มันทำให้เรารู้สึกว่าเรายังมีคุณค่าต่อคนอื่น มีคนต้องการเราอยู่นะ และเราช่วยคนอื่นได้